“สหกลอิควิปเมนท์”  เพิ่มศักยภาพงานพร้อมเสริมทัพด้วย VOLVO TRUCKS 26 คัน และรถขุด HITACHI ZX470 อีก 5 คัน หลังคว้างานเหมืองถ่านหินหงสา มูลค่าหมื่นล้าน

บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมางานเหมืองแร่ในภูมิภาค CLMV เดินหน้าสั่งซื้อรถ วอลโว่ ทรัคส์ รุ่น FMXจำนวน 26 คัน และรถขุด HITACHI รุ่น ZX470 อีก 5คัน เพื่อรองรับแผนการขยายงานใน เหมืองถ่านหินหงสา สัญญา D แขวงไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากปีละ 1000ล้านบาท เป็นปีละ 1,200 ถึง 1,300 ล้านบาทในอนาคต

ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เข้าลงนามในสัญญาว่าจ้างขุดขนดินและถ่านหินในโครงการเหมืองหงสา กับบริษัท HONGSA POWER เป็นระยะเวลาประมาณ 12 ปี ระหว่างปี 2015 – 2026 โดยมีมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 11,742.7 ล้านบาท โดยจะต้องดำเนินการเปิดหน้าดิน 235 ล้านลูกบาศก์เมตร และถ่านหิน 82.5 ล้านเมตริกตัน อนึ่งเหมืองถ่านหินหงสา เป็นเหมืองที่ส่งถ่านหินไปให้โรงไฟฟ้าหงสา ขนาด 1500 MW ผลิตไฟฟ้าให้แก่ประเทศไทยและสปป.ลาว ในปัจจุบันเหมืองหงสาเป็นเหมืองธุรกิจถ่านหินที่มีชั้นถ่านหินหลายลักษณะ บริษัทจึงต้องลงทุนในเครื่องจักรหลากหลายขนาดเพื่อรักษาการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพ

Volvo Truck รุ่น FMX จำนวน 26 คัน เป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรง ทนทาน และเหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพถนน ด้วยระบบขับเคลื่อนทุกล้อโดยอัตโนมัติ มีสมรรถนะการขับขี่ดีขึ้น เน้นให้มีคุณลักษณะใหม่ในการควบคุมด้วย Automatic Traction Control (ATC) ช่วยผู้ขับขี่สามารถขับรถผ่านอุปสรรคได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังช่วยลดการสึกหรอของรถบรรทุกได้อีกด้วย และรถขุด HITACHI รุ่น ZX 470 อีก 5 คัน ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขุดดิน เพิ่มกำลังในการขุดเจาะ และสามารถขุดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดย  รถขุด HITACHI รุ่น ZX 470 ถูกออกแบบมาสำหรับงานถ่านหินที่มีลักษณะหน้างานที่สลับซับซ้อนได้อย่างเหมาะสม

สำหรับการสั่งซื้อรถบรรทุก Volvo Truck รุ่น FMX จำนวน 26 คันเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ 31 คัน และรถขุด HITACHI รุ่น ZX 470 จำนวน 5 คัน เพิ่มเติมเป็น 15 คัน นั้น เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่พร้อมจะเสริมเครื่องมือการทำงานให้เพียบพร้อมอยู่ตลอดเวลา และเพื่อมุ่งหวังให้ธุรกิจงานเหมืองถ่านหินได้ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน