นโยบายความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)สำหรับผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าของข้อมูลของบุคคลดังกล่าว

นโยบายความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าของข้อมูลของบุคคลดังกล่าว

บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทอื่นในกลุ่ม (รวมเรียกว่า“บริษัท”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในฐานะผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัท รวมทั้งในกรณีที่เจ้าของข้อมูลเป็นผู้รับมอบฉันทะ ผู้รับมอบอำนาจจากบุคคลดังกล่าวด้วย (รวมเรียกว่า “เจ้าของข้อมูล”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเจ้าของข้อมูลได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้กำหนดนโยบายคุ้มครองฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึง การลบ และทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่นๆ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และช่องทางการติดต่อบริษัท ดังต่อไปนี้ 

1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล                                                                                                                                         

บริษัทอาจการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลโดยอาศัยฐานทางกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆดังต่อไปนี้

ลำดับที่
วัตถุประสงค์
ฐานทางกฎหมาย
1.1
เพื่อการบริหารจัดการทะเบียนผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ การมอบฉันทะ และอื่นๆ ทั้งสำหรับผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
1.2
เพื่อการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น หรือการจ่ายคืนเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยแก่ผู้ถือหุ้นกู้
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
การปฏิบัติตามสัญญา
(Contractual Basis)
1.3
เพื่อการจัดประชุม การเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น / ผู้ถือหุ้นกู้และการบริหารจัดการในการจัดประชุมดังกล่าว เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม การบันทึกการลงมติเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนและการนับคะแนนเสียงในที่ประชุม เป็นต้น
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.4
เพื่อการบันทึกภาพ เสียง และ/หรือวิดีโอระหว่างการประชุม เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่การประชุมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท หรือเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับชมในภายหลัง หรือเพื่อการประชาสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ของบริษัท หรือเพื่อประโยชน์ของผู้เข้าร่วมประชุม
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.5
เพื่อการแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ที่จัดให้แก่ผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ ตามที่บริษัท เห็นสมควร
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.6
เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการจัดเตรียมกิจกรรม จัดเตรียมการจัดงาน และการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัท จัดขึ้น ตามที่บริษัท เห็นสมควร เช่น การจัดเตรียมสถานที่ การจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม หรือการจัดเตรียมยานพาหนะ ของที่ระลึก เป็นต้น
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.7
เพื่อเป็นฐานข้อมูล และเพื่อดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ใดๆ ในฐานะที่เจ้าของข้อมูลเป็นผู้ถือหุ้น / ผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัท เช่น สิทธิในการจองซื้อหุ้นบริษัทในกลุ่มที่เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก สิทธิการจองซื้อหุ้นกู้ เป็นต้น
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.8
เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) ของบริษัท และ/หรือใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความสัมพันธ์ หรือการติดต่อประสานงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.9
เพื่อการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในองค์กร การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน การกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารจัดการภายในองค์กร
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.10
เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่างๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.11
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่งของหน่วยงาน องค์กรอิสระ หรือเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียก คำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ หน่วยงานราชการ และการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หรือองค์กรอิสระ
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมเพื่อการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น การจ่ายเงินต้นและหรือดอกเบี้ยแก่ผู้ถือหุ้นกู้ การบริหารจัดการทะเบียนผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ การมอบฉันทะ เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัท ในการปฏิบัติตามสัญญา หรือข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ และปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ รวมถึงเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด และกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หากเจ้าของข้อมูลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น บริษัทอาจไม่สามารถบริหารหรือจัดการสัญญาผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้ ระหว่างเจ้าของข้อมูลกับบริษัท รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่เจ้าของข้อมูลในฐานะผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับ (ถ้ามี) ได้
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
โดยทั่วไปแล้วบริษัท จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยการขอข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง เช่น การให้เจ้าของข้อมูลกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนด หรือสอบถามจากเจ้าของข้อมูล หรือขอให้เจ้าของข้อมูลส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บริษัท แต่อย่างไรก็ตามอาจมีบางกรณีที่บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลมาจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น เช่น นายทะเบียนหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ดำเนินการเก็บรวบรวมนั้น มีดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
(1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) : ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ-สกุล ภาพถ่าย รูปภาพ เสียงบันทึก หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หนังสือการรับอนุญาตประกอบกิจการ (เช่น คัสโตเดียน) รวมถึงข้อมูลจากใบอนุญาตขับขี่หรือข้อมูลบนบัตรอื่นใดที่ออกโดยหน่วยงานราชการ รายละเอียดการถือหุ้น/หลักทรัพย์ (เช่น บริษัทที่ถือ จำนวนที่ถือ หมายเลข ประเภท สัดส่วนการถือ) รายละเอียดการมอบฉันทะ (เช่น ชื่อ ที่อยู่ของผู้รับมอบฉันทะ ชื่อกรรมการอิสระของบริษัท) ข้อมูลการลงมติในที่ประชุม (เช่น การใช้สิทธิออกเสียงของเจ้าของข้อมูลในแต่ละวาระว่าเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย หรืองดออกเสียง) และ/หรือจำนวนเงินปันผล
(2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data): ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ และ/หรืออีเมล
(3) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data): ข้อมูลบัญชีธนาคาร (เช่น ชื่อบัญชีธนาคาร หมายเลขที่บัญชีธนาคาร ธนาคารที่เปิดบัญชี เลข swift ที่อยู่บัญชี) ที่ใช้ในการรับผลประโยชน์กรณีจ่ายเงินปันผล เงินต้น และ/หรือดอกเบี้ย จำนวนหุ้น/หุ้นกู้ (หน่วย)
(4) ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท (Communication Data): ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัท
(5) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท: การบันทึกภาพนิ่ง หรือวิดีโอ
(6) ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีอิเล็กทรอนิกส์: ชื่อบัญชีผู้ใช้ (Username) Line ID
(7) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ: อาชีพ
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
โดยทั่วไปแล้วบริษัท ไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูล ศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากเจ้าของข้อมูลได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท ขอให้เจ้าของข้อมูลปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากเจ้าของข้อมูลมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าเจ้าของข้อมูลอนุญาตให้บริษัท ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากบริษัท ไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการบริษัท จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของเจ้าของข้อมูลเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ บริษัท อาจมีบางกิจกรรมที่ บริษัท จะขอข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนบางประการเพิ่มเติม เช่น เมื่อเจ้าของข้อมูลเข้าร่วมกิจกรรมสำหรับผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ บริษัทอาจมีการขอทราบข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อการอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมดังกล่าว หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ตามที่บริษัทได้แจ้งไว้โดยเฉพาะในแบบฟอร์มการขอความยินยอม และ บริษัท จะดำเนินการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนดังกล่าว
3.ระยะเวลาที่จัดเก็บ การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อดำเนินการวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้ บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
4. การเปิดเผยข้อมูล
บริษัท อาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคล หรือหน่วยงานราชการ ซึ่งทำงานร่วมกับ บริษัท เพื่อดำเนินตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งในคำประกาศฉบับนี้เท่าที่จำเป็น ดังต่อไปนี้
4.1 บริษัทย่อยและบริษัทในกลุ่ม เพื่อวัตถุประสงค์ในช่วยการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้น
4.2 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรมสรรพากร
4.3 เจ้าของข้อมูล ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ เช่น ผู้ให้บริการจัดกิจกรรมและการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ถือหุ้น/ผู้ถือหุ้นกู้ บริษัทให้บริการระบบลงทะเบียนและนับคะแนนเสียง ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย สถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
4.4 ธนาคารที่มีหน้าที่จ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหุ้น/ผู้ถือหุ้นกู้
4.5 นายทะเบียนผู้ถือหุ้น/ผู้ถือหุ้นกู้
4.6 ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
5. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและของผู้บริหารไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการคุ้มครองและบริษัทสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
6. การใช้คุกกี้
บริษัทมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่ได้กำหนดไว้ตาม นโยบายคุ้มครองผู้ใช้งานงานเว็บไซต์ของบริษัท
7. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
7.1. ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอม เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะถอน ความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
7.2. หากเจ้าของข้อมูลถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถ ดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
7.3. หากเจ้าของข้อมูลมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้เรา ทราบเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย
8. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
8.1. เจ้าของข้อมูลมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้
(1) ถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(2) ขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
(3) การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
(4) คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูล
(5) ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ (Anonymization)
(6) ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
(7) แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
8.2. บริษัทสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้โดยคลิกที่นี่หรือไปที่ [https://www.sahakol.com/th/legal_privacy/dsr.html] (โดยจะเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)
9. เกี่ยวกับการควบคุมจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้จัดตั้งระบบบริหารจัดการและควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง,ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยดำเนินการจัดทำระบบ จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย จัดทำเอกสาร ทำการทบทวนและการพัฒนาปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมาย ทั้งนี้ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาและผู้รับข้อมูลจากบริษัท มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนด
10. ช่องทางการติดต่อกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การติดต่อกับบริษัทในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายนี้
ผู้ติดต่อ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน )
เลขที่ 47/10 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทรศัพท์ : 02-9410888
แฟกซ์ : 02-9410881 เว็บไซต์ : www.sahakol.com อีเมล : pdpa.sq@sahakol.com
หากพบการรั่วไหลของข้อมูล บริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบภายใน 72 ชั่วโมง
จึงประกาศมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยทั่วกัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป